หลายสิ่งที่ได้เรียนรู้ตั้งเเต่ทำ PAOCLOUD มา 2 ปีนิดๆ

Pao Payungsak Klinchampa
PAOCLOUD CO., LTD.
Published in
3 min readFeb 2, 2023

--

ปกติเเล้วผมจะเขียน Tech Blog เป็นหลัก เเต่รอบนี้จะลองเขียนเรื่องราวทั่วไปของมนุษย์คนนึงบ้าง ว่าได้เรียนรู้อะไรจากการทำ PAOCLOUD

สำหรับ PAOCLOUD หรือตัวย่อ PCLO เป็น Tech Company เล็กๆ ที่เป็น APN Consulting Partner เราเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของหลายๆ Project ที่ใช้ AWS หลังบ้านตั้งเเต่ระดับธุรกิจเล็กๆของบุคคลธรรมดา บริษัท SME บริษัทมหาชน บริษัทข้ามชาติ และหน่วยงานรัฐ เราก็รับงานมาเเล้ว

หน้าที่ของเราก็คือคอยให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้งระบบ เขียน CI/CD ดูเรื่อง Security ช่วยลูกค้า Config Router ช่วย Dev แก้ Bug เขียน Code ตัวอย่างให้ดู ช่วยออกเเบบ App ออกแบบหลังบ้าน บลาๆๆ เยอะเเยะไปหมดเลย

จุดเริ่มต้นของ PAOCLOUD

เอาจริงผมสนใจ Computer มาตั้งเเต่เด็กล้ะครับ รู้สึกว่ามันมีอะไรให้น่าค้นหา เเละมันเอามาทำมาหากินในอนาคตได้ แถมที่บ้านก็สนับสนุนครับ แม้ฐานะเราจะลำบากอยู่ประมาณนึง แต่เเม่ก็ไม่ยอมให้เราเเละน้องอดตาย ทุกวันนี้เเกก็ยังคงทำงานเหมือนเดิม บ่นไปเยอะเเล้วว่าหยุดบ้าง แก่เเล้วนะ เเต่เเกก็ยังคงทำนั่นทำนี่ไปเรื่อย 555 (บ่นเเม่ซะงั้น)

จนมีโอกาสได้ทำ AWS Basic Course จาก Idea ของลูกค้ารายนึงซึ่งแกก็เคยทำ Course เรียนขายอยู่ ซึ่งมันก็ขายได้ประมาณนึง ไม่เยอะมากหรอก จนมีวันนึงทาง AWS ติดต่อเข้ามาพูดคุยด้วย ก็ทำให้ได้รู้ว่ามี APN อยู่ ตอนเเรกก็เเอบตกใจนึกว่าจะโดนเรื่อง License อะไรมั๊ย เเต่เปล่าเลยครับ AWS สนับสนุนบอกให้ทำต่ออีก

จนช่วงปี 2563 ผมกลับมาอยู่ที่บ้านด้วยสถานการณ์ COVID19 ก็รับงานเป็น Freelance และยังดูระบบของ Next Hop Solutions อยู่ที่เป็นบริษัทของพี่ชาย ตอนนั้นคิดว่า เออ อยากลองทำ AWS Partner ดู ก็เลยเริ่มจากจดทะเบียนเป็นบริษัทก่อน ชวนพี่ที่พัทลุงมาเป็นหุ้นส่วนด้วย กับใส่ชื่อน้องสาวไว้เป็นหุ้นส่วน รวมผมก็เป็น 3 คนพอดี จดบริษัทได้ล้ะครับ ด้วยทุนจดทะเบียนอันน้อยนิด

ช่วงที่จดทะเบียนบริษัท

การเป็นบริษัท หมายความว่า เราเป็นนิติบุคคลล้ะครับ ซึ่งทำให้เราได้รู้ว่า ผู้ถือหุ้นคืออะไร กรรมการบริษัทคืออะไร รวมไปถึงได้เรียนรู้เรื่องบัญชีเเละภาษีด้วยครับ ผมใช้เวลาเรียนรู้ด้วยตัวเองก่อนจะจดบริษัทน่าจะประมาณ 2–3 เดือน พยายามหาบทความและสิงสถิตในกลุ่ม บัญชีเเละภาษี คอยอ่าน Post และ Comment ต่างๆ เป็นเรื่องน่าปวดหัวเหมือนกัน สำหรับคนที่ทำเรื่อง Technical มาทั้งชีวิต 555

จนพร้อม ก็เริ่มจดทะเบียนบริษัทผ่านทาง Online ค่าธรรมเนียมรู้สึกว่า 4500 ถึง 5000 บาทนี่ล้ะครับ จำตัวเลขชัดๆไม่ได้

และมาถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2563 ทาง DBD ก็อนุมัติครับ ในวันนั้นเอง ผมก็สั่งทำตราประทับบริษัทจากร้าน ตรายางมีสุข จดโดเมน paocloud.co.th จาก THNIC และสมัคร FlowAccount ไว้ทำบัญชีบริษัทครับ

ส่วนเรื่อง Email ผมใช้ Google Workspace มานานล้ะครับ ตั้งเเต่มันยังชื่อ G Suite ก็เเค่ Add domain paocloud.co.th เข้าไปเท่านั้น

เปิดบัญชีธนาคารของบริษัท

พอเราจดทะเบียนบริษัทผ่าน เพื่อความน่าเชื่อถือเเละดูดี เราก็ต้องมีบัญชีธนาคารเป็นของบริษัทครับ ผมเลือกเปิดบัญชีที่ SCB เพราะส่วนตัวใช้ SCB เป็นหลักด้วย และก็สมัคร Prompt Pay นิติบุคคล , SCB Easy Profile ธุรกิจ กับ SCB Business Anywhere ด้วยครับ มีครบ !!

เรื่องที่ยากเเละน่าปวดหัวคือเตรียมเอกสารครับ ทางธนาคารขอเอกสารเยอะมาก หนังสือรับรองบริษัท สำเนาบัตรประชาชน รายชื่อผู้ถือหุ้น บลาๆๆ เต็มไปหมด เเต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้

หาสำนักงานบัญชีให้บริษัท

จริงๆจุดที่พลาดอย่างนึงคือ ผมควรจะหาบริษัทบัญชีไว้เเต่เเรกก่อน เเต่นี่คือเพิ่งมาได้ตอนจดทะเบียนมาเเล้ว 3–4 เดือนได้มั๊งครับ 555 เเต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไร ลูกค้าก็เป็นลูกค้าเก่าที่คุ้นเคยซะส่วนใหญ่ อีกอย่างคือ ไม่มีเงินครับ กลัวเค้าจะเสนอราคามาล้ะเราจ่ายไม่ไหวเนี่ยเเหละ

ผมเปิดดูเว็บ FlowAccount ล้ะดูรายชื่อสำนักงานบัญชี Partner ครับ ที่ทำแบบนี้คือ ผมต้องการคนที่ชำนาญเรื่อง Flow Account และอยากได้เป็นบริษัท เพราะดูน่าเชื่อถือกว่า และไม่อยากมามีปัญหาปวดหัวเรื่องพวกนี้ทีหลัง

จนในที่สุดก็ได้บริษัท Alternatax เข้ามาดูเเล ปิดงบ ยื่นเสียภาษีนิติบุคคลครับ อันนี้ขอ Review ว่าทางทีม Alternatax น่ารักมาก ถามอะไรตอบได้ ส่งงบ ยื่นภาษีตรงเวลา จัดหมวดหมู่เอกสารที่ผมเคยส่งไปให้ปิดงบล้ะเป็นระเบียบมาก จนเเอบเกรงใจ ล่าสุดก็ช่วยคุยกับสรรพากรให้เรื่องภาษีขาย ช่วยเเนะนำเเละเเก้ไขเรื่องที่ผมบันทึก FlowAccount ผิดไป ใครจะเปิดบริษัท หรือต้องการบริการด้านบัญชีก็ลองติดต่อเข้ามาได้นะครับ

เรื่องบัญชีและภาษี

ใครอยากจะเป็น พ่อค้า/เเม่ค้า (หรือผู้ประกอบการ) ก็ควรจะรู้เรื่องพวกนี้ไว้บ้างก็ดีนะครับ เราขายอะไร เป็นรายได้ประเภทไหน ต้องยื่นภาษียังไง เตรียมเอกสารอะไรบ้าง ต้องจด VAT มั๊ย ไม่ควรจะผลักภาระให้ทางบัญชีไปเเก้ปัญหาเองทั้งหมด 555 ทุกวันนี้ยังมีข่าวโดนภาษีย้อนหลัง หลายคนทำธุรกิจมานานเเต่เพิ่งจะเริ่มยื่นภาษี อยากให้โรงเรียนมีสอนเรื่องพวกนี้บ้าง มีประโยชน์เเละใช้ได้ในชีวิตจริงๆ

ผมเองเพิ่งได้มารู้ก็ช่วงก่อนที่จะจดทะเบียนบริษัทครับ เเต่ก่อนหน้านั้นก็เคยยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเเล้ว เเต่ก็ยังไม่ได้รู้เรื่องอะไรมาก ยังงงเรื่อง ภงด91 กับ 90 อยู่เลย คือยื่นตั้งเเต่ยังเรียนมหาลัยเลยครับ ทั้งๆที่จริงๆรายได้รวมมันน่าจะยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องยื่นเลยมั๊งครับ

สำหรับเรื่องบัญชี จะเป็นการบันทึก Log หรือ Event (หลุดใช้ภาษาแบบ Technical ) ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินๆทองๆ ในกิจการของเราครับ เช่นลูกค้าโอนเงินให้เรา 10,000 บาท ก็ต้องบันทึกเป็นรายรับ เราโอนเงินซื้อของมาขาย ก็บันทึกเป็นต้นทุน เราไปเพิ่มทุนจดทะเบียนล้ะจ่ายค่าหุ้น ก็ต้องบันทึกเข้าไป แม้เเต่เราเอาเงินบริษัทไปใช้เองส่วนตัว ก็ต้องบันทึกเข้าไปครับ

รวมไปถึงการออกเอกสารต่างๆทั้งในส่วนของรายรับ เช่น ใบเสนอราคา ใบวางบิล ใบเเจ้งหนี้ ใบเสร็จ ใบกำกับ เยอะเเยะไปหมด เเรกๆผมก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน

ในส่วนของภาษี ก็จะเเยกไปเป็น ภาษีเงินได้บุคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล อันนี้ตรงๆครับ ใครทำอะไรล้ะมีรายได้ ก็ต้องเอาเงินส่วนนึงให้รัฐ แต่มันยังมีภาษีตัวอื่นๆอีกเช่น ภาษี หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งมันจะมีบางธุรกิจหรือเงินได้บางรูปเเบบที่ต้องหักครับ อย่างบริษัทผมก็จะโดนหัก 3% ตลอดเป็นค่าบริการ หรือ 1% ถ้าลูกค้าเป็นหน่วยงานรัฐ อันนี้ผมขอเรียกว่าเป็น Subset ย่อยๆของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา/นิติบุคคลล้ะกัน เพราะสุดท้ายเเล้ว เราก็เอาไปเป็น Credit ภาษีที่ต้องยื่นประจำปีได้ ใครที่ยังงงๆ ก็ให้เข้าใจว่า หัก ณ ที่จ่าย คือรัฐเก็บภาษีเราก่อนเวลาครับ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ประเทศมันอยู่ได้ พอปิดงบไป ถ้าเงินได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องจ่ายภาษี เราก็ทำเรื่องขอคืนได้นะ เเต่ผมขี้เกียจวุ่นวายเลยไม่ได้ขอคืน เพราะยังไงผมก็มองมันเป็นต้นทุนอย่างนึงอยู่ล้ะ ลูกค้าหักก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะ

แต่ของปี 2565 อันนี้ Plan กับทางบัญชีว่าอยากจะขอคืนอยู่ครับ มันหลายหมื่นบาทอยู่ สำหรับบริษัทเล็กๆนี่คือถือว่าหลายบาทอยู่นะ เอามาจ่ายค่าอะไรได้ตั้งหลายอย่าง

นอกจากนี้ ก็ยังมีภาษีอีกตัว ที่เราทุกคนคงจะรู้จัก คือ VAT ครับ ใครไปซื้อขนมกินที่ 7–11 ก็โดนเก็บ VAT ไปเเล้ว 7% และเราจะได้ใบกำกับภาษีอย่างย่อกลับมา ถ้าเราเป็นบุคคลธรรมดาซื้อของ ก็โยนลงถังขยะครับ เช่นผมซื้อ เเต่ในฝั่งคนขาย เค้าต้องทำรายงานภาษีขาย ภาษีซื้อครับ ล้ะต้นเดือนถัดไป ก็ต้องเอาเงินส่วนที่เป็น VAT 7% ส่งให้รัฐ

ในส่วนของผม รายรับรายจ่าย มันไม่ได้เยอะอะไรมากมายครับ พวก VAT หรือการนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย ผมก็จัดการเองทุกๆเดือน มี FlowAccount ช่วยล้ะมันง่ายขึ้นมากกกกกกกกกกก

แต่ในความพิเศษของบริษัทผมคือ จะยื่น ภพ.36 ซึ่งเป็น VAT อีกตัวนึง กรณีที่เราใช้ Services จากต่างประเทศครับ เพราะเค้าไม่สามารถออกใบกำกับที่ถูกต้องตามกฎหมายในไทยได้ เราเลยมีหน้าที่ต้องยื่น VAT เเทน ดังนั้นทางบัญชีก็จะเจอเอกสารแปลกปะหลาดในการบันทึกบัญชีเยอะเเยะเต็มไปหมด 555555

และประเทศไทยเรา ก็ยื่นภาษี Online ได้นะครับ ทางสรรพากรเพิ่งปรับปรุงระบบด้วย ถือว่ายื่นง่ายกว่าเเต่ก่อน (มองในมุมมองพ่อค้า และ IT Consult) แต่ตอนผมจดบริษัทเป็นช่วงยุคปลายๆของระบบเก่า ยังต้องเอาเอกสารมายื่นขอ User ที่สรรพากรพื้นที่ และพวกหัก ณ ที่จ่ายยังต้องใช้โปรเเกรมโบราณๆลงในเครื่อง windows ล้ะคือผมใช้ Mac ไง ลำบากมากกกกกก

จด VAT

ปีเเรก 2563 เป็นปีที่ผมยังไม่ได้จด VAT เพราะกฎหมายยังยกเว้นให้ เพราะรายรับมันไม่ถึง 1.8 ล้านอยู่เเล้วครับ คือเผื่อๆไว้ด้วย ว่าถ้าบริษัทเจ๊ง ไม่มีใครจ้างงาน จะได้ปิดบริษัทง่ายขึ้นอีกนิด เพราะมันยังไม่มีเรื่อง VAT

แต่พอผ่านปีเเรก เข้าสู่ปี 2564 ช่วงเดือนมีนาคม ผมก็ไปจด VAT ที่สรรพากรพื้นที่เเถวๆบ้านครับ เตรียมเอกสารไปให้เรียบร้อย ทางเจ้าหน้าที่ก็ทำเรื่องให้ ผ่านไปหลายวันอยู่ พี่ไปรษณีย์ก็ส่ง ภพ.20 มาให้ครับ ตอนนั้นคือเริ่มมั่นใจอีกนิดล้ะ ว่าบริษัทมันยังไม่เจ๊งเร็วๆนี้หรอกมั๊ง กับอยากทำ eTax Invoice บวกกับบริษัทเรามันเป็น B2B ลูกค้าส่วนใหญ่เค้าก็จด VAT กันทั้งนั้น

ขึ้นระบบ eTax Invoice

พอจด VAT ได้เเล้ว ผมก็เริ่มศึกษาเรื่อง eTax Invoice ครับ ตอนเเรกกะจะ Implement เองหมด เพราะสรรพากรมีตัวอย่าง Source Code เป็น Java มาให้ เเต่พอลองเเกะ Code ดู มันมีปัญหาอะไรหลายอย่าง เลยเปลี่ยนเเผนไปใช้บริการผ่าน Service Privider ดีกว่า ซึ่งผมใช้ของ INET อยู่ครับ แค่เขียน Code ง่ายๆในการเรียกใช้ API ไม่เกินความสามารถอยู่เเล้ว 55555

สำหรับ eTax Invoice คือการที่เราทำใบกำกับ ใบเสร็จให้อยู่ในรูปแบบ Electronic ครับ ในไทยจะเป็น PDF/3A และ XML ซึ่งผ่านการ Signed ด้วย Digital Certificate

การทำระบบนี้ ทำให้ผมลดเวลาที่ต้องขับรถไปส่งใบกำกับภาษี/ใบเสร็จ ที่ไปรษณีย์ หมดปัญหาเอกสารหายกลางทาง เอกสารถึงลูกค้าภายในวันที่ลูกค้าจ่ายเงิน เพราะส่งทาง Email

ขึ้นระบบ eWitholding Tax

น่าจะช่วงปลายปี 2563 มั๊งครับ ถ้าผมจำไม่ผิด ตอนนั้นสรรพากรเปิดตัวระบบ eWitholding Tax ขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำจ่ายเงินที่ต้องหัก ณ ที่จ่าย เช่นพวกเงินเดือนของคนที่มีเงินเดือนเกิน 25000 กว่าๆบาทต่อเดือน ผมจำตัวเลขเป๊ะๆไม่ได้ เเต่ถ้าคำนวณเงินได้ 40(1) ล้ะมันต้องเสียภาษีคือจะโดนหัก การจ่ายค่าเช่า จ่ายค่าบริการต่างๆ อะไรพวกนี้ครับ

โดยตัวระบบเนี่ย เราก็ทำเหมือนโอนเงินปกติครับ เเค่ต้องระบุรายละเอียดข้อมูลของผู้ถูกหัก ณ ที่จ่ายเพิ่ม ใส่ชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลือกว่าหัก ณ ที่จ่ายค่าอะไร อัตรากี่ % อะไรแบบนี้

จากนั้นทางธนาคารจะดำเนินการโอนเงินเเยกเป็น 2 ก้อนครับ ก้อนเเรกจะโอนให้กับเจ้าหนี้เรา หรือคนขาย อีกก้อนก็โอนเข้าสรรพากร เเละระบบก็ส่งข้อมูลการหัก ณ ที่จ่ายเข้าสรรพากร จะคนหัก หรือคนถูกหัก ก็เข้าไปดูข้อมูลได้ ไม่ต้องมาทำหนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่าย ไม่ต้องมายื่นเดือนถัดไปอีกรอบ สะดวกเเละดีงามมากๆ

แต่มันก็ยังอีกหลายๆจุดครับ ที่ควรต้องปรับปรุง เช่นพวกลักษณะการจ่ายเเบบ bill payment ที่เวลาเราจ่ายค่า service อะไรซักอย่าง ล้ะมีปุ่มให้กดจ่ายผ่านทาง Internet Banking ของธนาคาร ถ้า implement ewht ตรงนี้ด้วย มันก็จะดีเเละสะดวกไปอีก

ขอ Publish เลยล้ะกันนะครับ จะเข้ามา Update เรื่อยๆ

Update 04/02/2023

เปิดบัญชีธนาคารอีกที่นึง (KBANK)

ช่วงต้นปี 2564 ผมได้เปิดบัญชีออมทรัพย์ของ KBANK ไว้อีกเเห่งนึงครับ ด้วยเพราะลูกค้าหลายรายก็ใช้ KBANK กัน และผมก็มีบัญชีส่วนตัวของ KBANK ด้วย

ในส่วนของ Internet Banking ผมมีครบครับ ทั้ง K PLUS SMS ที่เป็น App บนมือถือ K Biz ที่เป็น Web App และก็ K Cash Connect Plus อันนี้เป็น Web app เหมือนกัน เเต่ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทใหญ่ๆเค้าใช้กัน เเต่ผมก็ใช้อยู่

eDocument ด้วย DocuSign

ด้วยความที่บริษัทเป็น Cloud Company และอยากให้การทำงานต่างๆมัน Online ทั้งหมด เอกสารต่างๆก็จะอยู่ในรูปของ eDoument ครับ โดยบริษัทจะใช้ DocuSign ในการทำใบเสนอราคา และใบวางบิล/ใบเเจ้งหนี้

และก่อนหน้านี้ ทางบริษัทก็ทำเรื่องขอเก็บเอกสารทางบัญชีเป็น Electronic ไว้ด้วยนะครับ ยื่นเรื่องเข้าสรรพากรเรียบร้อย

(Update : 15/06/2566)

ปิดงบมาสามปีเเล้ว มันบอกอะไรได้บ้างล้ะ ????

ตอนนี้บริษัทก็ปิดงบการเงินมา 3 ปีเเล้วล้ะครับ ข้อมูลในงบการเงินก็ขึ้นครบล้ะในเว็บ DBD ซึ่งถ้าเรามองดู จะเห็นว่า รายรับ ลบ รายจ่ายออก มันเหลือกำไรน้อยนิดเวอร์

แต่ก็ไม่ได้แบบว่าถึงกับเดือดร้อนมากมายครับ ก็ยังไปได้อยู่

รอติดตามกัน ว่าจะเจ๊งมั๊ย 5555

--

--